พีคจัด“กรรชัย”หลุด“หมอดูฮวงจุ้ยดัง”เคยไปดูบ้านให้ ฝั่ง“หมอกฤษณ์”ลั่นแบบนี้เรียก”มิจฉาชีพ”

หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดังถูกกล่าวหาว่าหลอกเงินคุณยายวัย 77 ปี รวมกว่า 66 ล้านบาท โดยอ้างว่าต้องทำพิธีและซื้อของมงคลจากจีน ผู้เสียหายระบุว่าได้จ่ายเงินสำหรับการดูฮวงจุ้ยและซื้อสิงโตและกิเลน รวมถึงค่าทำพิธีต่าง ๆ แต่ยังไม่ได้รับของตามที่สั่ง หมอดูคนดังกล่าวเสนอให้ทำพิธีโรยผงกระดูกผีและซื้อที่ดินสุสานในราคาสูง โดยอ้างว่าจะช่วยแก้ดวงและนำโชค ตำรวจได้รับเรื่องร้องเรียนและเริ่มการสอบสวนเกี่ยวกับการฉ้อโกงในกรณีนี้ ผู้เสียหายยืนยันว่าจะดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องเงินคืนและเตือนภัยให้กับผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อในอนาคต

แม่ไม่สนใจ เด็กชาย 3 ขวบหิวข้าว เดินไปบ้านย่า 15 กม.

เด็กชายวัย 3 ขวบเดินไปหาคุณย่าห่างจากบ้าน 15 กม. เนื่องจากหิวข้าวและแม่ไม่สนใจ พลเมืองดีพบเด็กเดินอยู่ริมถนนในอุดรธานีและช่วยนำส่งตำรวจ แม่ของเด็กมีพฤติกรรมไม่ปกติและมีประวัติทำร้ายเด็ก รวมถึงเสพยาเสพติด เด็กมักต้องออกไปขอข้าวที่วัดกิน เนื่องจากแม่ไม่ดูแล ตำรวจพาเด็กไปส่งที่บ้านย่า พร้อมกำชับให้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย

หมอดูฮวงจุ้ยหายตัว-ปิดบ้านเงียบ

หมอดูฮวงจุ้ยหายตัวจากสาธารณะ สร้างความสงสัยในชุมชน การปิดบ้านเงียบทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัย ข่าวเย็นช่องวันรายงานเหตุการณ์ที่น่าสนใจนี้ สำนักข่าววันนิวส์ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ผู้คนแสดงความกังวลเกี่ยวกับการหายตัวไปของหมอดูฮวงจุ้ย

แฉ! พระปลัดใจป๋าคลั่งรักสาวเปย์ฉ่ำ เลี้ยงหรูอยู่สบาย

พระปลัดอายุ 28 ปี ถูกกล่าวหาว่าใช้เงินบริจาคจากญาติโยมเพื่อเลี้ยงดูผู้หญิงอย่างหรูหรา มีหลักฐานเป็นสลิปโอนเงินที่แสดงให้เห็นการโอนเงินจำนวนมากให้กับผู้หญิง ผู้หญิงโพสต์ภาพและข้อความใน Instagram แสดงถึงความสัมพันธ์กับพระปลัด พระปลัดลาออกจากตำแหน่งรองเจ้าอาวาสเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อพระพุทธศาสนา สำนักพุทธมหาสารคามเตรียมตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมของพระปลัดที่ถูกกล่าวหา

หญิงที่หลงป่าในฮาวาย ก่อนถูกพบตัวในอีก 17 วันต่อมา

ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม 2019 อแมนดา เอลเลอร์ นักกายภาพบำบัดและครูสอนโยคะวัย 35 ปี หายตัวไปในเส้นทางเดินป่าระยะทาง 3 ไมล์ ในเขตป่าสงวนอันกว้างใหญ่ ทางตอนเหนือของเกาะเมาวี รัฐฮาวาย อแมนดาไม่มีทั้งอาหาร น้ำ หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือให้ติดต่อใคร เนื่องจากเธอเก็บมันไว้ในรถ เพราะเธอวางแผนจะออกไปท่องเที่ยวในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ก่อนที่เธอจะหลงออกไปนอกเส้นทาง อแมนดากล่าวว่า เธอตั้งใจว่าจะเดินไปตามเส้นทางสั้น…

คุณยายที่ถูกทิ้งยกมรดก 100 ล้านให้สัตว์เลี้ยง แต่ไม่ให้ลูกที่ทอดทิ้งเธอไว้

คุณยายชาวจีนรายหนึ่งตัดสินใจยกทรัพย์สินของเธอที่มีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านหยวน หรือประมาณ 100 ล้านบาท ให้กับสุนัขและแมวที่เธอเลี้ยงไว้ โดยอ้างว่าพวกมันอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ไม่เหมือนกับลูก ๆ ทั้ง 3 คน ที่ไม่เคยเหลียวแลเธอเลย นางหลิว คุณยายชาวเซี่ยงไฮ้ได้ทำพินัยกรรมครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน โดยตั้งใจแบ่งทรัพย์สินทั้งหมดให้กับลูก ๆ ทั้ง 3 คน แต่เมื่อไม่นานมานี้ เธอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในพินัยกรรม…

ชายที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่มีชีวิตอยู่ต่อไปอีก 30 กว่าปี ?

ชายเป็นมะเร็งผู้โกงตาย จนใช้ชีวิตต่อไปได้อีก 30 ปี ย้อนกลับไปในปี 1976 สตามาทิส โมไรทิส ชายชาวกรีซวัย 66 ปี ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอด ซึ่งจะทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ประมาณ 6-9 เดือนเท่านั้น โมไรทิส ซึ่งใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในชานเมืองนิวยอร์กและฟลอริดา กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งสำคัญในชีวิต เขาได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ 3 คน ซึ่งให้ผลลัพธ์เหมือน ๆ…

หญิงทรมาน 18 ปี หลังเข็มหล่นช่องคลอดตอนเย็บแผล

หญิงชาวนราธิวาสวัย 36 ปี ทนทุกข์ทรมานจากการมีเข็มที่ถูกลืมไว้ในช่องคลอดนานถึง 18 ปี หลังการคลอดลูกที่โรงพยาบาล เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ขณะเย็บแผลคลอด พยาบาลลืมเข็มไว้ในร่างกายผู้ป่วย ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องเรื้อรังและไม่สามารถผ่าตัดเอาเข็มออกได้ เนื่องจากเข็มเคลื่อนที่ตลอดเวลา ผู้ใหญ่บ้านและมูลนิธิได้ประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในการรักษา แพทย์ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง และมีการเยียวยาผู้ป่วย แต่ผู้ป่วยปฏิเสธการผ่าตัดเนื่องจากความเสี่ยง

ทนายตั้ม โผล่กองปราบฯ ชี้แจปมฉ้อโกงเงินเจ๊อ้อย 71 ล้าน พ้อหมดรักแล้ว ก็ไม่น่ามาทำกันแบบนี้

ทนายตั้ม หรือ นายสิธาเบี้ยบังเกิด เดินทางเข้าพบตำรวจที่กองปราบปราม เพื่อชี้แจงกรณีการฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาทจากเจ๊อ้อย นายสิธาเปิดเผยว่าเขาพร้อมให้ข้อมูลและรอการเรียกจากตำรวจมานานแล้ว ทนายตั้มกล่าวว่าเขาไม่ต้องการให้มีการซักซ้อมคำให้การระหว่างพยานและผู้กล่าวหา นายสิธายืนยันว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงและมีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา เขาเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มที่และถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสมในการเชิญพยานเข้ามาให้ปากคำ

“นุ๊ก สุทธิดา“เริ่มเคานต์ดาวน์ตัวเอง หลังเจอ“มะเร็ง”ลุกลาม ซ้ำพ่อตรวจเจอ“มะเร็ง”อีกคน

นุ๊ก สุทธิดา เผยเธอเริ่มเคานต์ดาวน์ชีวิตหลังตรวจพบมะเร็งที่ลุกลาม พร้อมกับคุณพ่อที่เพิ่งตรวจพบมะเร็งเช่นกัน นุ๊กมีความเชื่อว่าชีวิตของเธออยู่ในช่วงที่ต้องทำใจและเตรียมตัวสำหรับการรักษา เธอเลือกที่จะไม่เปิดเผยอาการมะเร็งให้คนรอบข้างรู้ เพื่อไม่ให้เกิดความกังวล นุ๊กกำลังพิจารณาทางเลือกการรักษา โดยมีทั้งการผ่าตัดและการฉีดเซลล์ต้นกำเนิด เธอเน้นความสำคัญของการมีความสุขและการสนับสนุนกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้